ชนิดของแผงโซล่าเซลล์ มีแบบไหนบ้าง?

1.Monocrystalline (Mono-Si)

Monocrystalline (Mono-Si)

เป็นแผงโซล่าเซลล์ (solar cell) ทำมาจากซิลิคอนที่มีความบริสุทธิ์สูง เป็นผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว เริ่มมาจากแท่งซิลิคอนทรงกระบอก แล้วนำมาตัดใหม่ให้เป็นสี่เหลี่ยม แล้วทำการลบมุมทั้งสี่ด้านออก ทำให้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมมุมตัด และมีสีที่เข้มเมื่อมองแผง Monocrystalline จากด้านนอก สีแผงจะมีสีเข้มออกไปในทางสีดำมีสีที่สม่ำเสมอกัน ทำให้มีความสวยงาม ติดตั้งเมื่อต้องการเน้นประสิทธิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าให้ได้มากๆ ในพื้นที่จำกัด

ข้อดี

ข้อเสีย

ประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20% ราคาแพง (หากเทียบกับแผงโซล่าเซลล์ (solar cell) ชนิดอืน
ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย มีประสิทธิภาพที่สููง หากเกิดมีสิ่งสกปรกหรือถููกบดบัังแสงบางส่วน อาจทำให้วงจรหรืืออินเวอร์เตอร์ (inverter) ไหม้ได้เพราะมีแรงดันสูงเกินไป
อายุการใช้งานนานประมาณ 25 ปีขึ้นไป
ผลิิตกระแสไฟฟ้าได้มากในภาวะแสงน้อย

2.Polycrystalline (Poly-Si)

Polycrystalline (Poly-Si)

เป็นแผงโซล่าเซลล์ (solar cell) ที่ทำจากผลึกรวมของซิิลิิคอนบริสุทธิ์รวมกัับแท่งซิลิคอน แล้วก็นำมาตัดเป็นแผ่น ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่มีการตัดมุมตัวแผงและมีสีออกเป็นสีน้ำเงิิน หากมองจากภายนอกจะเห็็นเป็นสีที่แผงโซล่าเซลล์ (solar cell) ไม่สม่ำเสมอกัน จากกระบวนการผลิต ติดตั้งเมื่อต้องการจำกัดเรื่องต้นทุน

ข้อดี

ข้อเสีย

ราคาถูก ประสิทธิภาพเฉลี่ย 13-16%
ประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีอุุณหภูมิสูงดีกว่าชนิด Monocrystalline ใช้เนื้อที่ติดตั้งมากกว่า (หากต้องการประสิทธิ ภาพเท่ากับชนิด Monocrystalline)
สีีของแผงโซล่าเซลล์ (solar cell) ไม่สวย

3.Half Cell

Half Cell

แผงโซล่าเซลล์ (solar cell) แบบ Half Cell หรือ Half Cut จะใช้วิธีลดกำลังผลิตไฟฟ้าของแต่ละเซลล์ลงครึ่งนึง แต่จะเพิ่มจำนวนเซลล์ให้มากขึ้นเป็น 2 เท่า และต่อแยกกันเป็น 2 ชุด เสมือนการนำแผงโซล่าเซลล์ (solar cell) 2 แผงมาขนานกันนั่นเอง ข้อดี : เมื่อเซลล์ถูกเงาบัง ความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็จะน้อยลงครึ่งนึง เมื่อเทียบกับแผงแบบปกติ



ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น